มาที่นี่ ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ภาษาไทย
จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน   INTERNET   ถ้าที่นี่ขัดข้อง ไปที่นี่ก็ได้ครับ
http://i.am/thaidoc    หรือ     http://hey.to/yimyam

ขยุ้มตีนหมา VS ผื่นกลีบกุหลาบ


สำหรับคอลัมน์ " ผิวสวย " นี้ เราคงได้คุยกันถึงเรื่องของผิวหนัง ตั้งแต่ธรรมชาติของผิวหนัง การดูแลผิวหนัง โรคผิวหนังชนิดต่างๆ การใช้เครื่องสำอาง ซึ่งเรื่องราวของผิวหนังนั้น ยังรวมไปถึงเรื่องของเส้นผม ขน และเล็บอีกด้วย

หรือถ้าคุณผู้อ่าน "ใกล้หมอ" สนใจเรื่องใดเป็นพิเศษก็กระซิบมาได้นะครับ

สำหรับวันนี้ผมขอเล่าเรื่องของโรคผิวหนัง 2 ชนิดที่เผอิญพบได้บ่อย ในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวฝนตก เช่นนี้ และโรคผิวหนัง 2 โรคนี้มีชื่อแตกต่างกัน ชื่อแรกฟังแล้วน่ากลัว ใครๆ ก็คงไม่อยากเป็น ส่วนโรคหลัง ชื่อเพราะ ผู้ที่เป็นโรคนี้พอทราบชื่อโรคก็ชื่นใจ เพราะฟังคล้ายถูกโรยด้วยกลีบกุหลาบ


เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้ป่วยหญิงวัยราว 30 ปี มาพบผม เธอเล่าว่ารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว มาวันสองวัน และตอนนี้มีตุ่มน้ำใสเล็กๆ ขึ้นที่หลังสองตุ่ม ตอนแรกผมก็ยังงงๆ ว่า เธอเป็นโรคอะไรกันแน่ แต่เมื่อสอบประวัติเพิ่มเติมว่าเธอไปใกล้ชิดผู้ใด ที่เจ็บป่วยบ้างหรือไม่ เธอก็เล่าว่าเมื่อสองสัปดาห์ก่อน คุณแม่ของเธอมีผื่นแดง และตุ่มน้ำใสขึ้นที่ใบหน้า มีอาการปวดมาก ไปพบแพทย์แผนโบราณ ซึ่งให้การวินิจฉัยว่าเป็นโรค ขยุ้มตีนหมา

จึงทำให้ผมปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่า อาการตุ่มน้ำใสและปวดของคุณแม่เธอนั้น น่าจะเป็นอาการของโรคงูสวัด ซึ่งโรคงูสวัดและอีสุกอีใสนั้นเกิดจากเชื้อไวรัสตัวเดียวกัน ในการติดเชื้อไวรัสตัวนี้ครั้งแรกจะแสดงอาการออกมาในรูปของอีสุกอีใส เมื่ออีสุกอีใสหายแล้ว เชื้อไวรัสต้นเหตุจะเคลื่อนไปอยู่ที่เส้นประสาท หลบซ่อนตัวอยู่ วันดีคืนดีจึงแผลงฤทธิ์ออกมา ทำให้เกิดโรคงูสวัดขึ้น

ดังนั้น ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตัวนี้ครั้งแรก ซึ่งอาจติดจากคนที่เป็นอีสุกอีใส หรือคนที่เป็นงูสวัดก็ได้แต่จะแสดงอาการออกมาในรูปของอีสุกอีใสเพียงอย่างเดียว ส่วนผู้ที่มีอาการโรคงูสวัดนั้นเป็นการกำเริบของเชื้อไวรัสที่มีอยู่ในตัวอยู่แล้ว ไม่ได้ติดจากผู้อื่น ผู้ป่วยรายนี้จึงเป็นอีสุกอีในจากการติดเชื้อมาจากมารดาซึ่งเป็นงูสวัดนั่นเองครับ

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายของคำว่า
ขยุ้มตีนหมา คือชื้อโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง มีพิษอักเสบออกเป็นเม็ดผื่นดวงๆ

งูสวัด คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง มีอาการอักเสบอย่างเฉียบพลันที่ปมประสาทไขสันหลัง และพุเป็นเม็ดพอง ตามผิวหนังเป็นทางยาวพาดขวางลำตัว เป็นต้น ทำให้ปวดแสบปวดร้อน

อีสุกอีใส คือ ชื่อโรคชนิดหนึ่งเกิดตามผิวหนัง เป็นเม็ดพองใสๆ ขึ้นตามตัว

จากนิยามเหล่านี้ ผมเข้าใจว่าคำว่า ขยุ้มตีนหมา คงเป็นคำรวมๆ ซึ่งงูสวัดก็อาจแสดงอาการแบบนี้ออกมาได้ ผู้ที่เป็นงูสวัดนั้น จะเห็นเป็นตุ้มน้ำใสๆ ขนาดเล็กๆ เป็นกลุ่มๆ มักเรียงตามแนวเส้นประสาทที่เลี้ยงผิวหนัง รอยโรคนั้นเป็น เป็นเพียงซีกเดียวของร่างกาย (จากภาพ) ผิวหนังบริเวณ ที่ตุ่มน้ำขึ้น มักมีอาการบวมแดง คัน ปวดแสบปวดร้อน อาการปวดจากโรคงูสวัดนั้น อาจเป็นได้มากในคนสูงอายุ บางรายโชคร้ายอาจปวด

อยู่นานหลายเดือนถึงหลายปี เส้นประสาทที่จะเกิดงูสวัดนั้น จะเป็นที่เส้นไหนก็ได้ ที่พบบ่อยก็คือ หน้าอก หลังและลำตัว แต่ก็พบที่ใบหน้าได้บ่อยเช่นกัน ซึ่งอาจมีอาการที่ตาและหูด้วย ผู้สูงอายุที่เป็นงูสวัด อาจพบข้อแทรกซ้อนได้มาก จึงควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

สำหรับ โรคอีสุกอีใส นั้น จัดเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่ติดต่อได้ง่ายมาก ดังนั้น เด็กที่อยู่ในเมืองส่วนใหญ่จะเป็นโรคนี้ก่อนเข้าสู่วัยรุ่น ผู้ใหญ่ที่เป็นอีสุกอีใสจะมีอาการ และข้อแทรกซ้อนมากกว่าเด็ก ไวรัสมีระยะฟักตัวเฉลี่ย 15 วัน อาจมีไข้ ปวดหัว เมื่อยล้า 2-3 วัน ก่อนมีอาการแสดงทางผิวหนัง ผื่นจะเริ่มขึ้นที่ลำตัวและกระจายไปที่ใบหน้า และแขนขา เป็นตุ่มแดงเล็กๆ มีขอบเขตเป็นรอยหยักคล้ายกลีบกุหลาบและมีตุ่มน้ำใสๆ ลักษณะของรอยโรคเหมือน " dew drop on a rose petal " หรือหยดน้ำค้างบนกลีบกุหลาบ นี้จัดว่าเป็นลักษณะเฉพาะของโรคอีกสุกอีใสนะครับ ต่อมาตุ่มน้ำใสจะกลายเป็นตุ่มน้ำขุ่นข้น และแตกออกกลายเป็นสะเก็ดกรังตามมา โดยทั่วไปสะเก็ดมักหลุดออกใน 7 วัน หากมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนหรือแกะเกาะก็จะเกิดแผลเป็นเป็นรอยบุ๋มถาวรได้ บางรายเป็นมากอาจมีอาการปอดบวม เจ็บหน้าอกตามมา จึงขอแนะนำให้ผู้ที่เป็นอีสุกอีใส พบแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อการรักษาที่ถูกต้องนะครับ

ปัจจุบัน มียารับประทานที่ใช้รักษาโรคงูสวัดและอีสุกอีใสที่ได้ผลดีพอควร ยังมียาทาที่ทำจากสมุนไพรไทยคือ ใบเสลดพังพอนที่ช่วยลดอาการปวดของโรคงูสวัดลงได้

ผู้ป่วยอีกรายหนึ่งมีผื่นคันแดงๆ ขนาดหัวแม่มือขึ้นตามลำตัว ไปพบคุณหมอมาแล้ว คุณหมอบอกว่าเป็นโรค ผื่นกลีบกุหลาบ จึงขอความรู้เรื่องนี้
คำถามนี้น่าสนใจนะครับ เพราะโรคนี้พบได้บ่อยและมีชื่อชวนสะดุดหูสะดุดใจเสียด้วย โรคผื่นกุหลาบนี้ เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า pityriasis rosea เป็นผื่นผิวหนัง ที่เกิดขึ้นได้เอง ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ไม่ค่อยทำให้เกิดอาการอื่น เช่น ปวดหัว ตัวร้อน ส่วนใหญ่จะมีอาการคันเท่านั้น พบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่พบได้บ่อยในเด็กช่วงอายุ 10-15 ปี

ก่อนจะมีผื่นขึ้นทั่วตัว มักมีผื่นขนาดใหญ่สีชมพู มีขุยขึ้นตามหน้าอก หรือหลัง เรียกว่า ผื่นแจ้งข่าว (herald patch) แปลว่า แจ้งข่าวว่ากำลังจะมีผื่นเล็กๆ รูปไข่สีชมพู มีขุยตามรอบนอกเกิดตามลำตัว แขน ขา คอ แต่มักไม่พบที่ใบหน้า ผื่นเล็กๆ เหล่านี้ เมื่อขึ้นที่หลัง มักเรียงเป็นแนวเฉียงเข้าหาเส้นกลางลำตัวดูเหมือนต้นคริสต์มาส ที่มียอดอยู่ด้านบน อาการสำคัญของโรคนี้คืออาการคัน ผู้ป่วยบางคนยิ่งร้อน ยิ่งเหงื่อออกมาก จะยิ่งคันมาก

โรคนี้เมื่อเป็นแล้วจะค่อยๆ จางลงและหายไปได้เองใน 6 สัปดาห์ แต่ในบางราย ก็อาจเป็นต่อเนื่องกันนานกว่านี้ เมื่อผื่นหายจะไม่เกิดแผลเป็นตามมา หากคันมากอาจใช้ยาทา หรือยารับประทานเพื่อลดอาการคัน หากเป็นมากหรือเป็นช่วงที่จะมีพีสำคัญ เช่นจะแต่งงาน แพทย์อาจพิจารณาให้สเตียรอยด์รับประทานตามความเหมาะสมเป็นรายๆ ไป อย่างไรก็ตาม ผู้ที่คิดว่าเป็นโรคผื่นกลีบกุหลาบ น่าจะไปพบแพทย์ผิวหนัง เพราะต้องวินิจฉัยแยก โรคซิฟิลิสระยะที่ 2 ที่เรียกว่า ออกดอก เพราะผื่นมีลักษณะใกล้เคียงกัน หากไม่แน่ใจ หรือว่าเคยซุกซนมาก่อน ก็จำเป็นต้องตรวจเลือด

หากเลือดบวกก็แสดงว่า เป็นซิฟิลิส ไม่ได้เป็นผื่นกลีบกุหลาบนะครับ


(update 14 พฤศจิกายน 2001)
[ ที่มา..หนังสือ นิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 25 ฉบับที่ 5 พฤษภาคม 2544 ]


[ BACK TO LIST]

main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]
Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21] resolution 800x600